"เค้กผลไม้เพื่อคนรักสุภาพ"

Bakie De Bako กินเค้กไม่อ้วน รังสรรค์ผลไม้สดเพื่อคนรักสุขภาพ

 

 

 

 

    ธัญญารัตน์ กาญจนปัญจพล เจ้าของร้านเค้กเบคกี้เดอบาคโค เล่าว่า ธุรกิจเริ่มจากที่เมื่อตนเองเรียนจบ แต่ไม่อยากเป็นลูกจ้างใคร ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงได้เข้าไปเรียนคอร์สการทำเบเกอรี่กับโรงแรมโอเรียลเต็ล ซึ่งได้เรียนทั้งการทำขนมเค้ก ช็อคโกแลต คุกกี้ และไอศกรีม ซึ่งเมื่อเรียนตนก็รู้สึกชอบ และต้องการทeขายอย่างจริงจัง แต่เนื่องจากในขณะนี้คู่แข่งมีหลายเจ้าที่ทำเค้กแบบโฮมเมด ส่งผลให้ธัญญารัตน์ นำสูตรการทำเค้กที่ได้เรียน มาดัดแปลงส่วนผสมให้มีไขมัน และคอเรสเตอรอลน้อยลง เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบการรับประทานเค้ก แต่ไม่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก

                                                         เค้กส้ม สินค้าขายดี

  “หลังจากที่เรียนการทำเบเกอรี่ ของโรงแรมโอเรียลเต็ลมาแล้ว เราก็เอาสูตรมาปรับปรุงโดยใช้วัตถุดิบที่ทางแล้วไม่อ้วน หลีกเลี่ยงการใช้เนย ครีม แต่ใช้น้ำมันข้าวโพดที่มีคลอเรสเตอรอลน้อยกว่าแทน เพื่อสุขภาพของผู้บริโภค แต่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ที่ขณะนี้ในตลาดมีเค้กแบบโฮมเมดเกิดขึ้นมาก”

    


                                                 เค้กครีมเอาใจคนไม่กลัวอ้วน

  ส่วนจุดเด่นของเค้กร้าน เบคกี้ เดอ บาคโค นอกจากจะทานแล้วไม่อ้วน โดยใช้น้ำผลไม้สด ไข่ขาว และน้ำมันข้าวโพด เข้ามาแทนมาใช้เนย แล้ว ยังมีการคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่จากแหล่งผลไม้ที่มีคุณภาพ อย่าง ตลาดมหานาค เป็นต้น รวมถึงความสดใหม่ของขนมเค้กที่ทำสดใหม่ทุกวัน ปราศจากวัตถุกันเสีย กลิ่น สี มาจากธรรมชาติล้วนๆ เก็บได้นาน 3 วัน (ในตู้เย็น) โดยสั่งล่วงหน้า 1 วันก่อน 18.00 น. พร้อมบริการส่งในกรุงเทพฯ เมื่อสั่งครบ 1,000 บาท (ขึ้นอยู่กับระยะทาง)

                                               

                     เค้กกีวี สีสันน่ารัปประทาน


     ปัจจุบันเค้กในรูปแบบของ Low Fat มีให้เลือก 5 รสชาติ คือ ส้ม กีวี่ แอปเปิ้ล ลิ้นจี้ และสับปะรด ส่วนผู้ที่ชื่นชอบความเข้มข้น หวานมัน ไม่กลัวอ้วน ของช็อกโกแลต และชีส ทางร้าน ก็มีให้เลือกในรูปแบบเค้กกรีม เช่น บลูเบอรี่ชีสพาย เค้กนมสด ชาเย็น นมเย็น มะพร้าว ช็อกโกแลต และมอคค่า เป็นต้น ซึ่งทางร้านได้คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพและเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนตามแบบฉบับ โฮมเมด แท้ๆ ในราคา 380 บาท/ 2 ปอนด์

 

 

ร้านเค้กบรรยากาศดีในกรุงเทพ

 พาชิมร้านเค้ก กาแฟ น่านั่ง บรรยากาศสบายๆ ในกรุงเทพ

         

ชวนชิมเค้กและกาแฟ ร้านอร่อยในกรุงเทพ 

EDT guide ขอมาแนะนำร้านเค้กและกาแฟ น่านั่ง บรรยากาศสบายๆ ในกรุงเทพ ให้เพื่อนๆ เพื่อจะเป็นไอเดียให้เพื่อนๆ ลองปชิมดู ซึ่งแต่ละร้านมีจุดเด่นแตกต่างกันไป รับลองเลยว่าคุณต้องประทับใจแน่นอน ... แต่จะมีร้านไหนบ้างลองตามไปดูกันนะค่ะ

Too Fast To Sleep

  ร้านกาแฟที่เอาใจคนนอนดึกเพราะที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีทั้งกาแฟ และอาหารจานด่วนไว้บริการ บรรยกาศภายในร้านโปร่งโล่งสบายๆ มีหนังสือหลากหลายชนิดให้เลือกอ่านตามใจชอบ

Penguin Likes Chocolate 

     ชื่อร้านและโลโก้เก๋ไก๋ มีที่ให้เลือกนั่งทั้งด้านนอกและด้านใน ภายในร้านตกแต่งด้วยของน่ารักๆ โทนสีของร้านเป็นสีขาว - ดำ ดูเรียบง่ายและคลาสสิค

Farm Design 

    ร้านชีสเค้กที่ส่งตรงมาจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ชั้น 7 โซน Atrium ห้างเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในฟาร์มนม เมนูเด่นของที่นี่คือ ชีสเค้ก แถมรสชาติยังเหมือนต้นตำรับเพราะมีเชฟญี่ปุ่นมาดูแลเรื่องของวัตถุดิบและวิธีการทำชีสเค้ก ดื่มกับกาแฟหรือจะเป็นชาเชียว หากได้มาลิ้มลองที่ร้าน Farm Design คงต้องลืมความอ้วนไปเลยทีเดียว 

Chalet De Coco Cafe & Bar Bistro 

        คาเฟ่แสนหวานสไตล์ผรั่งเศสที่ตั้งอยู่ภายในโกดัง 9 โครงการ Asiatique The Riverfront ภายในตกแต่งให้ดูหรูหรา และหวานละมุนด้วยโทนสีขาวบริสุทธิ์ ห้อมล้อมไปด้วยบานกระจกใส ทำให้เหมือนนั่งรับแดดอ่อนๆ อยู่ในเรือนกระจกของคฤหาสน์สุดหรู

เทคนิคการทำเค้กให้แสนอร่อย !!!

เทคนิคการทำเค้ก

       เค้กมีหลายประเภทและมีคุณสมบัติต่าง ๆ กัน ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของส่วนผสม คือ แป้งสาลี ผงฟู เกลือไขมัน น้ำตาล ไข่ นม และกลิ่นรส โดยต้องมีองค์ประกอบเป็นตัวเค้กให้   มีความสมดุลต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของเค้กที่จะทำ จึงต้องมีเทคนิคในการทำให้เค้กนั้นมีคุณภาพ มีความอร่อย และน่ารับประทาน

เทคนิคเบื้องต้นในการทำเค้ก 

         การมีหลายชนิดหลายรูปแบบดังที่ได้กล่าวมาแล้วการทำเค้กแต่ละชนิดจะมีวิธีทำและส่วนที่ต่างกันบางชนิดก็มีวิธีการทำที่ซับซ้อนซึ่งผู้ทำเค้กควรจะมีเทคนิคในการทำ คือ 

1. ควรร่อนแป้งทุกครั้งก่อนใช้ เพื่อให้อากาศแทรกเฟข้าไประหว่างเนื้อแป้ง ทำให้แป้งฟูเบาช่วยให้แป้งที่จับเป็นก้อนแยกตัวออก จะสังเกตได้ว่าแป้งที่ร่อนแล้วกับแป้งที่ยังไม่ได้ร่อน  แม้จะมีปริมาตรเท่ากันแต่จะหนักไม่เท่ากัน ดังนั้นในการทำเค้กในปัจจุบัน จะนิยมการชั่ง มากกว่าการตวง ซึ่งทำให้ส่วนผสมแน่นอนกว่า แต่การชั่งก็ต้องร่อนแป้งทุกครั้งช่นเดียวกัน
2. ไขมันในการทำเค้ก ใช้เนยหรือมาการีน ถ้าเป็นเนยสดก่อนใช้ควรนำออกจากตู้เย็นก่อนเพื่อจะตีได้ง่ายขึ้น ในการทำเค้ก เพื่อให้มีลักษณะดีควรใช้เนยสดผสมมาการีนหรือเนยขาวจะทำให้เค้กเนื้อนุ่มมีลักษณะดี และมีปริมาตรดีด้วย
3. ควรใช้น้ำตาลเม็ดละเอียดในการผสมเค้ก ถ้าใช้น้ำตาลเม็ดใหญ่อาจทำให้ละลายไปหมดทำให้เกิดลักษณะเป็นจุด ๆ บนหน้าเค้ก ควรนำไปปั่นให้ละเอียดก่อนใช้
4. การตีส่วนผสม เค้กชนิดที่มีไขมันเป็นส่วนผสมหลัก ควรใช้พายยางปาดข้างอ่างผสมและที่ตีเสมอ ๆ เพื่อช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ง่ายขึ้น ควรหยุดเครื่องผสมทุกครั้งก่อนใช้พายปาด
5. ผงฟู ที่ใช้ในการทำเค้กควรใช้ผงฟูคุณภาพดี ถ้าผงฟูเก่าขนมเค้กจะมีขนาดและปริมาตรไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
6. การเติมไข่หรือส่วนผสมที่เป็นของเหลว ควรค่อย ๆ เติมลงไปทีละน้อย หรือแบ่งเติมทีละส่วน ไม่ควรใส่หมดในคราวเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันแยกตัวออกจากส่วนผสม  ทำให้เค้กที่ได้มีปริมาตรเล็ก และเนื้อขนมมีลักษณะไม่ดี

7. ในการผสมเค้กเนยในช่วงสุดท้าย มักเป็นการผสมนมหรือของเหลวอื่น ๆ ให้ใส่แป้งสลับกับนมโดยเริ่มต้นด้วยแป้งสลับนม และจบสุดท้ายด้วยแป้ง เพื่อให้ดูดซึมของเหลวบางส่วนไว้ และป้องกันการแยกตัวของไขมันในส่วนผสมอื่นอีกด้วย
8. ไข่ที่เหมาะสมสำหรับการทำเค้ก ควรใช้ไข่ไก่สด สปันจ์เค้กหรือชิฟฟ่อนเค้ก เพราะถ้าข่สด ไข่ขาวจะข้นและไข่แดงรวมตัวเป็นก้อนกลมไม่เหลวหรือแตกง่าย
9. การตีไข่ขาว สำหรับเค้กชิฟฟ่อน ควรตีด้วยความเร็วสูงจนไข่เริ่มตั้งยอดอ่อน จึงใส่น้ำตาลแล้วตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอด ข้อควรระวังในการตีไข่ขาว อุปกรณ์เครื่องใช้เช่น อ่างผสมที่ตีต้องสะอาด และแห้งสนิท ไม่เปื้อนไขมัน ไม่มีไข่แดงแตกปน
10. การอบเค้กทุกชนิด ควรจุดเตาอบให้อุณหภูมิของเตาอบได้ตามที่บอกไว้ตามตำราขณะ อบขนมไม่ควรเปิดเตาอบดูขนมบ่อย ๆ การเปิดเตาอบแต่ละครั้งอุณหภูมิจะลดลงเพราะ ในขณะอบขนมอยู่อากาศหรือก๊าซที่อยู่ในเนื้อขนมจะขยายตัว เมื่อขนมสัมผัสอากาศจะทำให้เนื้อขนมยุบตัวได้ ถ้าเป็นระยะที่เนื้อขนมยังไม่แข็งตัวหรือยังไม่สุก
11. การทดสอบว่าเค้กที่อบสุกหรือยัง ทำได้โดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มตรงกลางขนม ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดไม้ออกมาแสดงว่าสุกแล้ว หรือใช้นิ้วมือแตะหน้าขนมเบา ๆ ถ้าไม่เป็นรอยนิ้วที่แตะก็ใช้ได้ หรือสังเกตว่าขอบขนมร่อนออกจากพิมพ์โดยรอบ มีสีเหลืองสวย
12. การอบเค้ก ควรวางพิมพ์ให้อยู่กึ่งกลางเตาอบให้มากที่สุด เมื่อต้องการอบพร้อมกันหลาย ๆพิมพ์ควรจัดวางพิมพ์ให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว ไม่ควรวางพิมพ์ชิดกันหรือติดผนังเตาอบ

ลักษณะของเค้กที่ดี

1. สีของผิวรอบนอก ควรเป็นสีเหลืองทอง หรือสีน้ำตาลอ่อนสม่ำเสมอ
2. สีของเนื้อใน เป็นไปตามเครื่องปรุงหรือส่วนผสม เช่น ใช้ช็อกโกแลต ก็ควรเป็นสีน้ำตาล
3. ลักษณะของขอบรอบนอก เรียบสม่ำเสมอกัน
4. ลักษณะของหน้าขนม มัน เรียบ ไม่นูนเป็นแห่ง ๆ
5. การขึ้นฟูเป็นไปตามปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ผลิต น้ำหนักเบาเมื่อเปรียบเทียบกับ ปริมาณของขนม
6. ลักษณะของเนื้อใน ละเอียด ไม่แน่น หนัก มีความชื้น ไม่ร่วน หรือแฉะ
7. มีความนุ่มนวล นิ่ม เมื่อเอามือแตะเบา ๆ จะมีสปริง หรือหยุ่นกลับที่เดิม เนื้อไม่แน่นมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน
8. รสชาติกลมกล่อม เป็นไปตามเครื่องปรุงและส่วนผสมไม่มีรสผิดไป เช่น มีรสเฝื่อน เป็นต้น
9. กลิ่นหอมชวนรับประทาน ไม่มีกลิ่นหืน

10 ร้านเค้กชื่อดังที่ทุกคนห้ามพลาด

10 ร้านเค้กนี้แหละที่เราต้องไป!!!

    

     ไกด์คราวนี้เอาใจสาวๆ และคนรักเค้กกันหน่อย เพราะว่ารวบรวมเอาร้านเค้กที่ไม่ควรพลาดมาไว้ให้หลายๆ ร้านเลยโดยเฉพาะร้านดังๆ ที่มั่นใจได้ในรสชาติของเค้ก แต่อาจจะเข้าถึงยากไปนิดสำหรับบางร้าน เพราะคนแน่นซะเหลือเกิน ก็เลยคัดตัวเลือกใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาเสริมให้ด้วย จะได้ไม่พลาดกินเค้กอร่อยๆ กันนะ เพราะบางทีคนเราทำงานกันมาเหนื่อยๆ ก็อยากจะหาอะไรหวานๆ กินให้หายเครียดใช่มั้ยล่ะ แล้วเค้กกับขนมเบเกอรี่ต่างๆ ก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเมนูปรับสมดุลอารมณ์เลยแหละ เพราะเค้กหวานๆ หน้าตาสวยๆ ดูไป กินไป เป็นทั้งอาหารตาและอาหารปาก ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ตั้งแต่ตอนที่เห็นมันนอนอยู่ในตู้เค้กเลยแหละ!!!

  (1)    "After You"   

      

      จัดเป็นร้านแรกๆ ในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ที่ทำเมนู "ช็อกโกแลตลาวา" และ "โทสต์" แบบญี่ปุ่นออกมาขาย จนกลายเป็นเมนูขนมที่ฮิตติดลมบน และหลายๆ ร้านเริ่มเอาไปทำตาม แต่แฟนพันธุ์แท้ของร้าน "After You" ก็ยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สู้ช็อกโกแลต ลาวา และโทสต์ที่ "After You" ไม่ได้อยู่ดี เพราะช็อกโกแลตวาวาของ "After You" มีความเยิ่มฉ่ำของช็อกโกแลตร้อนๆ ด้านในมากกว่าที่อื่น และรสเข้มข้นแบบที่กินแล้วแทบจะไม่ต้องล้างจานกันเลยทีเดียว ส่วนโทสต์ก็ใช้ขนมปังหนานุ่มที่โปะเนยจนชุ่ม แบบแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของเนื้อขนมปัง ชนิดที่ร้านอื่นทำได้แค่ผิวๆ เป็นสองเมนูที่กินแล้วไม่อ้วนก็ใหัมันรู้ไป!!!!

  

  ( 2)  "Secret Garden"

    ร้านเค้กที่มีพื้นที่กว้างขวาง นั่งสบาย มีเมนูเค้ก และอาหารให้เลือกมากมาย ทั้งเค้กมะพร้าว เค้กแอปเปิ้ล หรือตัวเด่นๆ อย่าง "เครปเค้กสตรอเบอร์รี่" เนื้อเนียนละเมียดละไม ที่เรียงเนื้อเครปสลับชั้นกับครีมแบบประณีตและเนียนสุดๆ เป็นเมนูแรกๆ ที่คนจะนึกถึงเมื่อเอ่ยชื่อ "Secret Garden" เพราะใครได้กินเครปเค้กของ "Secret Garden" แล้ว เป็นได้ติดใจทุกราย และนอกจากเค้กอร่อยจนฝันถึงแล้ว ยังแอบหวานด้วยการเสิร์ฟชาร้อนมาในกาหน้าตาวินเทจ น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ มันช่างเป็นร้านที่เหมาะกับผู้หญิงจริงๆ

   

 ( 3)  "Bake a Wish"

 

    สาขาสุขสวัสดิ์เป็นสาขาแรก และสาขาดั้งเดิมของร้านเค้กชื่อดังอย่างร้าน "Bake a Wish" ที่เริ่มขายกันแบบอุตสาหกรรมในครัวเรือน จนกระทั่งสามารถเปิดร้านเพิ่มได้อีกหลายสาขา แต่ถึงจะแตกแขนงออกไปหลายสาขา แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของร้าน "Bake a Wish" ที่ใครๆ ที่หลงรักร้านเค้กร้านนี้ ก็จะต้องหลงรักสิ่งนี้ไปด้วย นั่นก็คือ "ชูครีม" แบบญี่ปุ่น ที่ลูกโต แป้งนุ่ม และอัดแน่นไปด้วยครีมฟูๆ เบาๆ รสอ่อนๆ หวานน้อยๆ ตามแบบฉบับโกเบ เป็นเมนูยอดฮิตของ "Bake a Wish" ที่พลาดไม่ได้จริงๆ สำหรับคนที่หลงรัก "ครีม"

    (4)   "Peony Teafe Gallery"

      ร้านนี้ก็มาแบบอารมณ์หวานมากๆ ทั้งจากการตกแต่งร้านแบบผู้หญืงๆ และเค้กที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งเค้กส้ม เค้กชาเขียว บลูเบอร์รี่ พาย ช็อกโกแลตเค้ก สโคน และ “Chocolate Classique" เค้กช็อกโกแลตที่เนื้ออุดมไปด้วยความเป็นช็อกโกแลตทุกคำ ถ้าใครไปกันหลายๆ คน สั่งแบบไฮทีมากินด้วยกัน ก็จะได้อร่อยพร้อมๆ กันทีเดียวหลายอย่าง ที่สำคัญหากกินเค้กแล้วฝืดคอ ที่ "Peony Teafe Gallery" ก็มีชาให้เลือกหลายมาก และเป็นของขึ้นชื่อของร้านไม่แพ้เหมือนกัน เพราะมีชสที่เบลนด์มาเพื่อร้านโดยเฉพาะ อย่าง "Peony" ชาที่ผสมดอกโบตั๋นและกุหลาบ กลิ่นหอมหวานแบบดอกไม้ช่วยให้อารมณ์ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าอยากลองชาแปลกๆ หน่อย ก็ต้อง ชาโสม ที่มีรสขมเล็กน้อยติดปลายลิ้น แต่พอชาผ่านลงคอไปแล้ว จะหลงเหลือแต่ความหวานไว้ในปากแทน

    ( 5)    "Caffe Undici"

     

       ร้านนี้เป็นทั้งร้านกาแฟ และร้านเค้กสไตล์โฮมเมด ที่แม้ขนาดของร้านจะไม่ใหญ่ไม่โต แต่เค้กและเครื่องดื่ม รวมทั้งอาหารอื่นๆ ของที่นี่รสชาติดีทีเดียว เพราะเจ้าของทำเอง ขายเอง ไม่ได้รับของมาจากที่ไหน เวลาใส่ส่วนผสมอะไรลงไปในเค้ก เครื่องดื่มและอาหารในร้าน จึงใช้ของแบบเดียวกับที่กินกันในครอบครัว ซึ่งนี่ถือเป็นเสน่ห์อย่างนึงของร้านเล็กๆ ที่ไม่ได้ทำขายแบบธุรกิจใหญ่โต จึงมีความพิถีพิถีนและความใส่ใจในทุกสิ่งที่เสิร์ฟให้ลูกค้า แต่อาจต้องมีลุ้นนิดนึงว่า วันนี้ไปจะได้กินเค้กอะไร เพราะแต่ละวันทำออกมาขายไม่เหมือนกัน บางวันมีเค้กแครอตสูตรพิเศษใส่เบอร์รี่ และเนื้อแครอต บางวันมีเค้กมิกซ์เบอร์รี่ครีมสดผสมโยเกิร์ต บางวันมีเค้กช็อกโกแลตที่ไม่ใช้แป้งเลย คนที่ชอบเค้กสดๆ ทำใหม่ๆ รสชาติแบบเบาๆ ค่อยๆ ปล่อยความอร่อยให้ซึมอยู่ในปาก "Caffe Undici" ก็เป็นร้านที่น่าไปลอง

     (6)  "Crepes  corner  ประชาอุทิศ 19"

       ร้านที่มีชื่อขึ้นต้นเหมือนร้านขายเครป แต่ภายในร้านกลับมี "เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม" ที่อร่อยที่สุดในสามโลก เพราะเป็นเค้กช็อคโกแลตที่เนื้อเค้กนุ่มเนียนละเอียด ราดมาด้วยซอสช็อกโกแลตฉ่ำเยิ้มสุดๆ รสชาติขมๆ หวานๆ แบบดาร์คช็อคโกแลตที่ปาดมาบนเนื้อเค้กอย่างหนา กินเข้าไปแล้วแทบลืมกินข้าวกินปลา ขอแค่ให้ได้กินเค้กของร้านนี้อย่างเดียวก็พอแล้ว และอะไรไม่เลิศเท่า เค้กช็อคโกแลตหน้านิ่มแสนอร่อยนี้ ราคาแค่ 50 - 60 บาทเท่านั้นเอง  กินสองอันติดกัน ก็ยังไหว กระเป๋าไม่แฟบด้วย ใครเป็นช็อคโกแลตเลิฟเวอร์ ไม่ควรมองข้ามร้านเล็กๆ เก่าๆ ร้านนี้

     

     (7) "Brownies Cupcake"

     

      ไม่พูดถึงเค้กน่ารัก แสนอร่อยที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง "คัพเค้ก" คงไม่ได้เลยล่ะนะ เพราะมันเป็นเค้กที่กินง่าย ชิ้นไม่ใหญ่ไม่โต แถมยังประดับโน่นนี่นั่นบนหน้าเค้กได้ในรูปแบบที่แตกต่างกับเค้กเป็นชิ้นๆ ด้วย และคัพเค้กของร้าน "Cupcake Love" ก็ไม่ใช่คัพเค้กที่มีดีแค่ที่หน้าตาสวยงามเท่านั้น แต่มันเป็นคัพเค้กที่เนื้อเค้กชุ่มฉ่ำมากๆ แบบไม่หวงเครื่อง ตัวครีมด้านบนก็เข้มข้นรสครีม และมีท้อปปิ้งเป็นตัวเสริมความอร่อยให้เค้กมากขึ้นด้วย เมนูที่กินแล้วต้องติดใจ คือ "Brownies Cupcake" ที่ในเนื้อเค้กมีช็อคโกแลตชุ่มฉ่ำ และตกแต่งด้วยครีมเนื้อแน่น ๆ กับบราวนี่ชิ้นเล็กที่อร่อยจริงจัง พร้อมราดซ้ำด้วยซอสช็อคโกแลตอีกทาง เป็นความอร่อยหลายต่อที่รวมอยู่ในคัพเค้กอันเดียวจริงๆ

    

      (8) "คาเฟ่ เดอ บางอ้อ"

      เป็นร้านที่คนที่ชอบคัพเค้ก "Red Velvet" จะต้องกรี๊ดออกมาดังๆ เพราะร้านนี้เป็นร้านแรกๆ เลยที่ทำเค้กเรด เวลเวทออกมาในรูปแบบของเค้กปอนด์แบบมีเนื้อเค้กสีแดงสด สลับชั้นกับครีมชีสรสเข้มข้นเค้มมันเปรี้ยว แบบที่ไม่รักไม่ได้แล้ว เพราะมันช่วยให้สาแก่ใจมากขึ้นกว่าเดิม ในการกินเค้กเรด เวลเวท เพราะแบบคัพเค้กครีมชีสมันน้อยเกินไป ไม่สะใจคนชอบครีมชีสเอาซะเลย นอกจากนี้ ก็ยังมี "Fresh Vanilla Cream Strawberry Mille Crepe เครปเค้กหน้าตาอลังการ เพราะชั้นของเครปเรียงตัวสวยงามแบบถี่ยิบ! และช่วงเทศกาลต่างๆ "คาเฟ่ เดอ บางอ้อ" ก็ยังมีแรงคิดค้นเค้กหน้าตาแปลกๆ ชื่อแปลกๆ มาเอาใจคนรักเค้กกันอยู่เรื่อยๆ ด้วย เช่น "เค้กหนอนชอนไช" รับเทศกาลฮัลโลวีน ใครอยากประสบพบเจอกับเค้กแปลกๆ ใหม่ๆ ลองไปที่ "คาเฟ่ เดอ บางอ้อ" 

      

      (9) "คอฟฟี่ บีนส์ บาย ดาว"

     

       เค้กละลานตา ต้องมาร้านนี้ เป็นร้านที่มีเค้กให้เลือกมากมายหลากหลายชนิด จนเลือกไม่ถูก แม้ราคาจะสูง แต่ถ้าได้ลองกินสักคำ แล้วจะบอกว่าสมราคา เพระามันเป็นเค้กที่ถึงเครื่อง ถึงรสจริงๆ เมนูเด็ดห้ามพบลาด คือ เค้กแครอต ที่ชื่อเสียงเรียงนามอาจไม่ถูกใจคนไม่กินผัก แต่เชื่อเถอะว่าถ้าได้ลองชิมเค้กแครอตของ "คอฟฟี่ บีนส์ บาย ดาว" เข้าไปสักคำ จะติดใจไปอีกนานแสนนาน เพราะในเนื้อเค้กผสมเนื้อแครอตอย่างละเอียด พีแคนนัตชิ้นใหญ่ เพอ้มผิวสัมผัสอันหลากหลายให้กับเค้ก และ "ครีมชีส" ขั้นเทพ ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของเค้กแครอตของ "คอฟฟี่ บีนส์ บาย ดาว" เลยก็ว่าได้ เพราะมันเป็นครีมชีสที่เปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานแค่นิดๆ กินแล้วฟินมาก คนชอบกินครีมชีส ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

      (10)  "cherubin"

      ร้านเชอรูแบงนี้อยู่ยงคงกระพันมานานพอสมควร จากทำเลที่อยู่ในละแวกที่มีแต่คนญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ และเป็นร้านเค้กที่ดำรงมาแบบเงียบๆ ไม่หวือหวา แต่อร่อยจริงจัง แต่อยู่ได้นาน เมนูเด่นๆ ก็เช่น "Coffee Almond" "Brooklyn Chocolate Cheesecake" หรือตัวเด็ดๆ ที่ไม่ค่อยเคยเห็นที่ไหน อย่าง "Brownie Cheesecake" ที่ใส่ชิ้นบราวนี่ผสมลงไปในเนื้อชีสเค้ก โปะหน้าด้วยบราวนี่ชิ้นกำลังดี แล้วราดทับซอสช็อคโกแลตเข้มข้น ถูกใจคนชอบกินบราวนี่แน่ๆ แล้วนอกจากเค้กที่ทำขายประขำแล้ว ยังมีเค้กพิเศษที่ทำมาเฉพาะเทศกาลพิเศษๆ ด้วย เช่น เค้กชาลาเวนเดอร์ หรือ ไวท์ ช็อคโกแลต ชีสเค้กกับสตรอเบอร์รี่สดๆ มาทที่เชอรูแบงกี่ครั้ง ก็จะได้ความแปลกใหม่กลับไปทุกครั้งแน่นอน เพราะมีเค้กให้ลองกิน ลองชิมไปได้เรื่อยๆ

เค้กที่ขายดีในเดือนนี้

                   

                    เค้กสตอเบอร์รี่ครีมนมสดและเค้กช็อกโกแลต

            

strawberry came milk

     

    เค้กนุ่ม ๆ ปาดทับด้วยครีมเบา ๆ พร้อมสตอเบอร์รี่ซอส จัดตกแต่งด้วยสตอเบอร์รี่สด เป็นเค้กที่ทำให้หลายคนหลงไหลในความนุ่ม หอม อร่อย รู้อย่างนี้แล้วคุณจะไม่ลองทำดูสักครั้งหรือคะ

        

 

Chocolate and Caramel Cake 

      ช็อคโกแลตคาราเมลเค้ก Chocolate and Caramel Cake เค้กที่  มีจุดเด่นของความหอมของคาราเมลที่อัดแน่นในแต่ละชั้น พร้อมทั้งเนื้อเค้กที่นุ่มนวล ทำไม่ยากมากแต่อร่อยมากๆค่ะ

                  

Chocolate   Brownie

      

   ช็อกโกแลตบราวนี่ Chocolate Brownie ขนมบราวนี่ ที่เต็มไปด้วยช็อกโกแลต ทำไม่ยาก เนื้อนุ่มอร่อย เหมาะกับผู้ที่คิดเริ่มทำขนมสักชิ้น  ยิ่งถ้ารักช็อคโกแลตตัวนี้เหมาะมากค่ะ ^^

 

 

ใหม่ล่าสุดกับ ."ประโยชน์ของเค้ก"

                                                           ประโยชน์ของ “เค้ก”

 เค้ก เป็นขนมอบที่มีลักษณะ รูปร่าง ตามความต้องการของผู้ผลิต แต่มีส่วนประกอบของแป้งสาลี น้ำตาลไข่ นม ไขมัน และสิ่งปรุงแต่งให้เกิดชนิดของเค้ก เช่น ผลไม้ต่าง ๆ ดังนั้นเค้กจึงเป็นขนมที่ให้ประโยชน์กับผู้บริโภค โดยได้รับสารอาหาร คือ

แป้ง น้ำตาล ให้สารอาหาร คาร์โบไฮเดรท ซึ่งเป็นสารอาหารที่ทำให้เกิดพลังงานแก่ร่างกาย

ไข่ นม ให้สารอาหาร โปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่สร้างเซลล์เนื้อเยื่อให้กับร่างกาย

เนย ไขมัน ให้สารอาหารไขมัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการหล่อลื่นและทำให้ผิวพรรณสดชื่นนอกจากนั้นยังสามารถนำไปใช้ในโอกาสต่าง เช่น วันมงคลสมรส วันเกิด ปีใหม่ และสามารถจัด

รับประทานเป็นอาหาร น้ำชา กาแฟด้วย

ประเภทของเค้ก เค้กสามารถแบ่งออกได้เป็น 3ประเภท ได้แก่

1.เค้กเนย เค้กกลุ่มนี้ มีไขมันเป็นเครื่องปรุงที่สำคัญ ไขมันนั้นอาจใช้เนย เนยเทียม เนยขาว อย่างใดอย่างหนึ่งหรือใช้ปนกันก็ได้ และอาจจะอบให้สุกเป็นแผ่น เป็นชิ้นใหญ่ หรือเป็นถ้วยก็ได้

2. เค้กไข่ เค้กกลุ่มนี้ใช้ไข่เป็นเครื่องปรุงหลัก จึงใช้ไข่ในปริมาณมาก และไม่ใช้ไขมันใน

3.คอมบิเนชั่นไทป์เค้ก เป็น เค้กที่คล้ายกับเค้กไข่ แต่มีส่วนผสมของไขมันที่ใช้ในรูปของน้ำมัน มีวิธีการทำก่ำกึ่งกันระหว่างเค้กเนยและเค้กไข่ เรียกว่าชิฟฟอนเค้ก ซึ่งมีโครงสร้างที่ละเอียดเหมือน เค้กไข่ และมีเนื้อเค้กที่เงามันเหมือนเค้กเนย